เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับพลอยมรกต อัญมณีสีเขียวเลอค่า
อัญมณีที่มีชื่อเสียงในด้านของความสวยงาม ใส่แล้วดูสง่ามีราศี
อัญมณีที่มีชื่อเสียงในด้านของความสวยงาม ใส่แล้วดูสง่ามีราศี คงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก “พลอยมรกต” ที่หากจะพูดถึงแหล่งที่มาของมรกตนั้น คือแร่เบริล (Beryl) แร่แบริล คือ ชื่อกลุ่มแร่ที่หากเป็นเบริลที่บริสุทธ์ ไม่มีธาตุอื่นเจือปนนั้น เบริลจะเป็นสีใส แต่หากเบริลมีธาตุอื่นเจือปน จะทำให้เบริลมีหลากสี สีที่พบนั้น ได้แก่ สีเขียว สีฟ้า สีแดง สีเหลือง โดยเป็นเวลากว่า 5,000 ปีมาแล้ว แร่แบริลที่มีสีเขียวเกิดจากการปนเปื้อนของแร่โครเมียมและวานาเดียม ซึ่งมีเพียงไม่กี่แหล่งในโลกที่เกิดสภาวะแวดล้อมดังกล่าว หรือที่เราเรียกว่า “มรกต” นี้ เป็นหินสีที่มีค่าและเป็นที่ต้องการมากที่สุด ที่ปรากฏให้เห็นในอารยธรรมโบราณในแอฟริกา เอเชีย อเมริกาใต้ รวมถึงในสหรัฐอเมริกา
มรกตเป็นอัญมณีที่มีมูลค่าสูงมากเมื่อเทียบกันในตระกูลแร่เบริลด้วยกัน มรกตที่นักสะสมต้องการคือแบบมีตำหนิเล็กน้อย ได้แก่ เส้น ริ้ว รอยแตก หรือจุดสีตำหนิ เป็นต้น ถึงจะมั่นใจแน่ว่าของแท้ที่ไว้ใจได้ เนื่องจากคุณภาพของมรกตนั้น อยู่ที่สีและรอยแตก เพราะมรกตเป็นพลอยที่ไม่ค่อยสะอาด เพราะมีมลทินภายในค่อนข้างมาก แต่เนื่องด้วยมีสีเขียวสดที่สวยงามและหาที่มีคุณภาพดียาก จึงทำให้มรกตมีราคาสูงกว่าเบริลชนิดอื่น บางเม็ดที่มีคุณภาพดีราคาจะแพงกว่าเพชร โดยหากมีสีเขียวทีเสมอกันตลอดทั้งเม็ดนั้น จัดว่าเป็นมรกตคุณภาพดี
ต้นกำเนิดของมรกตนั้น ในปัจจุบันสามารถพบได้ในประเทศโคลัมเบีย, แซมเบีย, บราซิล, ซิมบับเว, ปากีสถาน, มาดากัสการ์, รัสเซีย, อัฟกานิสถาน, ไทย, และสหรัฐอเมริก และมรกตจากที่ต่างๆก็มีจุดเด่นแตกต่างกันไป เช่น มรกตบราซิล มีสีเขียวอ่อนถึงเขียวเข้มปานกลาง มีตำหนิ และมลทินเล็กน้อย มรกตรัสเซีย จะมีความสดน้อยกว่าและมีสีเหลืองปนมาด้วย มรกตโคลัมเบีย จะมีสีเขียวสดใสสวยงาม แต่มักมีมลทินตำหหนิหรือรอยแตกร้าว มรกตจัดเป็นอัญมณีที่มีการปรับปรุงคุณภาพมากที่สุดเนื่องจากมีลักษณะรอยแตกภายในค่อนข้างมาก มรกตคุณภาพดีโดยทั่วไปผ่านการใส่สารเพื่อช่วยบดบังรอยแตกนั้นๆ ได้แก่ น้ำมันพืช น้ำมันจากแร่ หรือแม้แต่น้ำมันหล่อลื่น โดยสารพวกนี้จะซึมเข้าไปในรอยแตก นอกจากนี้ ยังมีสารจากธรรมชาติอื่นๆที่มีค่าดัชนีหักเหพอๆกันจะมีราคาแพงกว่าเราอาจมองไม่เห็นสารที่ว่านี้แม้ใช้กล้องจุลทรรศน์ที่มีกำลังขยายสูงๆ ส่วนมรกตของอัฟกานิสถานนั้น จัดว่าได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในวงการอัญมณีว่าเป็นมรกตที่สวยงามที่สุด
นอกจากนี้ ยังเป็นมรกตที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน และได้รับการยอมรับ ต้นกำเนิดของพลอยมรกตนั้น เริ่มมาจากเมื่อพันปีก่อน มีถิ่นกำเนิดจากหุบเขาปันจ์ชีร์ซึ่งเป็นเจ้าของนิยามของมรกตที่มาจากเทือกเขาฮินดูกูชนั้น สรรค์สร้างผลงานศิลปะที่วิเศษที่สุดที่เรียกว่า มรกต นั่นเอง อีกทั้งยังเป็นเหมืองเก่าในอัฟกานิสถานซึ่งตั้งอยู่ทางภาคเหนือของเมืองหลวงของประเทศ เป็นพื้นที่ที่มีเหมืองมรกตมากกว่า 172 แห่งและมรกตที่มาจากแหล่งนี้นั้นล้วนเป็นมรกตที่มีเอกลักษณ์แห่งหนึ่งของโลก โดยมีสีเขียวอมน้ำเงินที่ไม่เหมือนใคร และยังเป็นมรกตโดยธรรมชาติ ไม่ผ่านการปรุงแต่งคุณภาพใดๆซึ่งหาได้น้อยมาก มีเพียงมรกตเพียง 0.05% เท่านั้นที่ไม่ผ่านกระบวนการใดๆเลยเพื่อความกระจ่างใสของอัญมณี อีกทั้งยังมีสีฟ้าอมเขียวกลางๆและความอิ่มสีที่ลงตัวที่สุด มรกตจากหุบเขานี้ก่อให้เกิดธาตุไฮโดรเทอร์มัลและโครเมียมทำให้เกิดเงาสีเขียวที่ดีที่สุด และยังเป็นแหล่งเดียวในโลกที่ผลิตมรกตที่มีโครเมียมสูงขึ้นมากจนทำให้เป็นมาตรฐานใหม่ในสีมรกต มรกตที่ไม่ผ่านการปรุงแต่งใดๆและไม่มีรอยแตกนั้นหายากมาก หากมรกตผ่านกรรมวิธีต่างๆมาก ราคาก็จะยิ่งถูกลง แต่ถ้ามรกตไม่ผ่านการปรุงแต่ง ราคามรกตขั้นต่ำจะอยู่ที่ กะรัตละหนึ่งแสนบาดขึ้นอยู่กับขนาดของมรกต
ทั้งนี้ การเลือกสนับสนุนพลอยอัฟกานิสถาน จะช่วยเรื่องความยั่งยืนและความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจได้ในระยะยาว เพราะเหมืองมรกตที่ถูกกฎหมาย จะช่วยสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับประเทศอัฟกานิสถานได้อย่างยั่งยืน เนื่องจากการส่งออกพลอยและอัญมณีต่างๆนั้น ถือว่าเป็นสินค้าที่จะผลักดันเศรษฐกิจของประเทศในลำดับต้นๆอีกด้วย